วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

บทที่ ๒ ประวัติศาสตร์การท่องเที่ยวจากยุคเริ่มต้นถึงช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒


ลักษณะการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวสมัยกรีก

กิจกรรมการท่องเที่ยว คือ การซื้อของ การกิน การดื่ม การเล่นการพนัน การดูกีฬา การชมการแสดง

มีการเดินทางไปชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค

การเดินทางเพื่อการทำงานและพักผ่อนท่องเที่ยว

การเดินทางหลักคือใช้แม่น้ำไนล์


ลักษณะการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวสมัยโรมัน

การท่องเที่ยวรุ่งเรืองที่สุด

การเดินทางท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อน หาความสำราญ

นิยมเดินทางไปชมความสำเร็จของวิทยาการของกรีก เช่น อนุสาวรีย์ต่างๆ รูปแกะสลัก ตลอดจนงานเทศกาล

โครงสร้างพื้นฐานถูกสร้างขึ้นอย่างเป็นระบบ ทั้งถนนหนทาง ที่พักแรม (Inns ) ร้านอาหาร


ลักษณะการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวสมัยยุคกลางหรือยุคมืด

เป็นยุคที่ถนนหนทางถูกปล่อยให้ทรุดโทรม เศรษฐกิจกิจตกต่ำ แต่ศาสนาจักรโรมันคาทอลิคยังเป็นศูนย์รวมของสังคม การเดินทางมีความยากลำบาก และอันตรายมากขึ้น ทำให้ผู้คนเดินทางในระยะสั้นๆไม่ไกลจากบ้านนัก เริ่มมีวันหยุดโดยทางศาสนาเป็นผู้กำหนดวันเวลาที่หยุดพักผ่อน ให้กับผู้ที่ศรัทธาในศาสนา

7 สิ่่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง (Medieval)

หอเอนเมืองปีซา

สนามกีฬาแห่งกรุงโรม

คาตาโกมบ์

กำแพงเมืองจีน

สโตนเฮนจ์

เจดีย์กระเบื้องเคลือบนานกิง

สุเหร่าเซโซเฟีย

แหล่งข้อมูล : http://www.skoolbuz.com/library/content/657

การพัฒนาการคมนาคมทางถนนในคริสตศตวรรษที่ 17 ถึงต้นศตวรรษที่ 18

มีการพัฒนารถม้า4ล้อที่มีระบบกันสะเทือนด้วยสปริง ในศตวรรษที่18มีระบบทางด่วน ที่จะต้องจ่ายค่าผ่านทาง คศ.1815 ถนนมีการพัฒนาดีขึ้น หลุมบ่อลดน้อยลงมีการนำยางมะตอยมาใช้

ในศตวรรษที่ 18 มีระบบทางด่วนที่ผู้โดยสารต้องจ่ายค่าผ่านทาง ซึ่งต่อมามีการปรับปรุงระบบกันสะเทือนที่เป็นโลหะให้สบายมากขึ้น รถม้าเทียมมีส่วนช่วยในการพัฒนา การเดินทางในอาณานิคมของทวีปอเมริกาเหนือด้วย วิ่งระหว่างบอสตันและนิวยอร์คในปี ค.ศ. 1780


การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวประเภทที่อาบน้ำแร่ (Spa)

เมื่ออาณาจักรโรมันล่มสลาย ชาวโรมันก็ยุติการเดินทางไปยังชายหาดที่มีชื่อเสียงคือ วิเวียร่า (Riviara) อ่าวเนเปิ้ล รวมทั้งการไปอาบน้ำแร่ (Spa)

ยุคกลาง แหล่งอาบน้ำแร่ของชาวโรมันได้กลายเป็นน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ และต่อมาก็กลายเป็นที่อาบน้ำเพื่อสุขภาพจึงถือกำเนิดขึ้นมา

ประมาณ ปี ค.. 1900 มีสถานที่อาบน้ำแร่ในยุโรปถึง 750 แห่ง ส่วนมากอยู่ในบริเวณสถานที่พักผ่อนทางธรรมชาติ (Resort) หรือแหล่งรวมการบันเทิงต่าง ๆ ปัจจุบันนี้แหล่งอาบน้ำดังกล่าวได้เสื่อมความนิยมจากนักท่องเที่ยวลงไปมาก

กำเนิดยุคสถานที่ตากอากาศชายทะเล

ครั้งต่อมาประชาชนทั่วไปก็ติดตามมา พวกชนชั้นสูงก็แสวงหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ วนเวียนเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ ดังเช่น ในปี ค.. 1800 เป็นต้นมา

ชายทะเลที่สวยงามหลายแห่งได้ถูกค้นพบและกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญเช่น Scarborough Margate และ Brighton ในประเทศอังกฤษ พวกนักท่องเที่ยวที่มีฐานะร่ำรวยได้เข้าไปพักผ่อนเป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวเหล่านี้ยังได้เป็นผู้สร้างวิลล่า(Villa) หรือสถานที่พักผ่อนตากอากาศที่หรูหราสวยงามไว้ที่เมือง คานนส์(Cannes) และเมืองนิช (Nice) ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนด้วย


การท่องเที่ยวในศตวรรษที่ 20 (1901-2000)

ช่วง 50 ปีแรก สถานที่ตากอากาศในริเวียร่าของฝรั่งเศสเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องที่ยวฐานะดี ทศวรรษที่ 1920 เกิดการเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก เมื่อรูปแบบการเดินทางเปลี่ยนไปผู้คนนิยมหันมาใช้รถยนต์ส่วนตัวมากขึ้น มีการพัฒนาถนน นำรถบรรทุกที่ขนสัมภาระในสงครามทำเป็นรถโค้ช ซึ่งได้รับความนิยมมากในช่วง 1920 และต่อมาบริษัท Henry Ford ในอเมริกา ผลิตรถยนต์รุ่น Model T ในราคาที่ใครก็เป็นเจ้าของได้ เป็นครั้งแรก ทำให้การเดินทางโดยรถไฟลดน้อยลง และการบินเพื่อการพาณิชย์ได้เริ่มเป็นครั้งแรกในปี 1919 ในทวีปยุโรป สายการบินของอเมริกา Pan American Airways เริ่มบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นครั้งแรกในปี 1930 โดยในระยะแรกเพื่อการขนส่งจดหมายและไปรษณีย์ภัณฑ์ จนหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 พัฒนามากถึงขนส่งผู้โดยสารได้


การท่องเที่ยวหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้คนเริ่มออกเดินทางเพื่อชมสถานที่สำคัญทางสงคราม เดินทางด้วยรถยนต์ เพราะมีการปรับปรุงถนนหนทาง การเดินทางด้วยรถไฟลดน้อยลง ริเริ่มใช้เครื่องบินในการเดินทาง ซึ่งเริ่มประดิษฐ์เพื่อการขนส่ง ในยุโรป ปี ค.ศ. 1919 หลังจากนั้นจึงใช้เครื่องบินในการโดยสาร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น